ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำการติดตั้ง Arch Linux ที่โคตรจะง่ายมากๆ แค่ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ EZ
ก่อนอื่นเลยต้องไปดาวน์โหลด Image File สำหรับหรับติดตั้ง Arch และยัดลง Flash Drive ให้เรียบร้อย ในบทความนี้ผมจะใช้ VitualBox ในการติดตั้ง
Boot
ถึงขั้นตอนนี้ เราก็รอไป
Install
ถึงขั้นตอนนี้เราก็พิมพ์คำสั่ง archinstall
archinstall
Language
ตรงภาษาไม่ต้องเปลี่ยนอะไร ใช้ตามที่มันกำหนดได้เลย
Mirror
ตรง Mirror ผมจะใช้ Mirror ในไทยละกัน
จากนั้นเลือก Mirror region
ให้พิมพ์ /thai
เพื่อ filter จากนั้นกด enter
เรียบร้อยสำหรับการ set Mirror จากนั้นเลือกลูกศรลงมาเลือก Back
Locale
ตรง Locale ผมก็ไม่เปลี่ยนอะไร ใช้ตามเดิมไปก่อน
Disk
ต่อมาก็จะเป็นขั้นตอนการเลือก Disk สำหรับการติดตั้ง
ด้วยความที่ผมใช้ VirtualBox ผมก็ใช้ default ตามที่ระบบมันแนะนำไปก่อน โดยเลือก Use a best-effort defaul partition layout
ผมเลือก ATA VBOX HARDDISK แล้วก็ Enter
file system ผมก็จะใช้ btrfs แล้วก็กด Enter
แล้วก็ Enter
แล้วก็ Enter
เรียบร้อยสำหรับการ set Disk
Disk Encryption
ขั้นตอนนี้ข้ามไป เพราะผมไม่อยากให้มีการ encrypt ฮาร์ดดิสก์
Bootloader
ขั้นตอนเลือก Bootloader จะ default GRUB ไว้ให้แล้ว ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม
Hostname
hostname ไม่ก็ไม่เข้าไปเปลี่ยน ใช้ค่าเดิมไปก่อน
Root Password
ขั้นตอนนี้เราก็จะมาตั้งรหัสผ่าน สำหรับ root กัน
เราก็กรอกรหัสที่เราอยากจะตั้งไป กรอกเสร็จ กด Enter
แล้วก็กรอกรหัสอีกครั้ง (ให้เหมือนกันทั้ง 2 ครั้ง) กรอกเสร็จกด Enter
User Account
พอได้รหัสผ่านสำหรับ root แล้ว เราะก็จะมาเพิ่ม user ใหม่เอาไว้ใช้เอง
เลือก Add a user
กรอกชื่อ user และ password
กรอก password อีกครั้ง
เลือก yes (default)
ก็จะได้หน้าตาแบบนี้
เลือก Confirm and exit แล้วก็กด Enter
เรียบร้อยสำหรับส่วนของ user
Audio
ขั้นตอนนี้จะไปตั้งค่า audio ซึ่งผมจะใช้ Pipewire
จากนั้นผมก็เลือก Pipewire
เรียบร้อยสำหรับตั้งค่า audio
Kernel
มาถึงในส่วน Kernel ผมก็เลือกเป็นแค่ linux
Additional Package
ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการติดตั้ง package อื่นๆ เพิ่มเติม ผมยังไม่อยากได้อะไร งั้นก็ข้ามไปได้เลย
Network
ต่อมาก็จะเป็นขั้นตอนการตั้งค่า Network
ผมจะเลือก Manual configuration
เลือก Add interface
เลือก interface ที่ต้องการ
Network ผมแจก IP โดยอัตโนมัติ เลยเลือก DHCP แล้วก็กด Enter
ก็จะได้หน้าตาประมาณนี้
จากนั้นก็ Confirm and exit
เรียบร้อยสำหรับการตั้งค่า Network
Timezone
มาถึงขั้นตอนนี้ ก็จะเป็นการตั้งค่า TimeZone
ผมก็พิมพ์ /bangkok เพื่อ filter หา TimeZone Asia/Bangkok กด Enter
เป็นอันจบสำหรับการตั้งค่า TimeZone
Install
การตั้งค่าทั้งหมด ก็จะมีประมาณนี้ ต่อมาก็กด Enter เพื่อเริ่ม Install package กันเลย
กด Enter อีกครั้ง เพื่อ เริ่มติดตั้ง
ระบบก็จะเริ่มรับถอยหลังสำหรับการติดตั้ง 5…4…3…2…1 🚀
ตอบ yes แล้วก็กด Enter
เมื่อติดตั้งเสร็จ จะกลับมาสู่หน้าจอนี้
พิมพ์ exit แล้วก็กด Enter เพื่อออกจากการติดตั้ง
เมื่อกลับมาสู่หน้าจอนี้ พิมพ์ reboot แล้วกด Enter
Boot to Arch Linux
เลือก Boot existing OS
เลือก Arch Linux
รอ
Login ด้วย user ที่เราได้สร้างไป
Install Gnome
เมื่อ login เสร็จ เอาหละ เรามาลองติดตั้ง Gnome ไว้ใช้เป็น Desktop Environment กันหน่อยดีกว่า จัดเลย ด้วยคำสั่ง
กรอกรหัสผ่าน แล้วกด Enter ได้เลย
กด Enter อีกครั้ง เพื่อติดตั้งเฉพาะ default package
อันนี้ก็ default เหมือนกัน กด enter อีกครั้ง
ตอบ y แล้วกด Enter
ระบบก็จะติดตั้ง หน้าตาที่คุ้นเคย เราก็รอ
เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็ reboot ด้วยการพิมพ์ reboot แล้วกด Enter
Start GDM
เมื่อ reboot เสร็จ Gnome จะยังไม่ถูกใช้งาน เราต้องพิมพ์คำสั่งเพื่อเปิดการใช้งานมันก่อน ด้วยคำสั่ง
จากนั้นก็ start service gnome ด้วยคำสั่ง
เพื่อให้ Gnome เริ่มต้นการทำงาน
Tada! 🎉 หน้าจอ Gnome ก็จะขึ้นมาแล้ว
กรอกรหัสผ่านเพื่อเข้าไปใช้งานกันเลย
คลิก Skip เพื่อไปต่อ
I use Arch btw 😏
เมื่อ login เข้ามาได้แล้ว สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ เปิด Terminal ขึ้นมาแล้วติดตั้ง neofetch
ตอบ y แล้วกด Enter
เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็พิมพ์ neofetch แล้วกด Enter
เพียงเท่านี้ เราก็สามารถพิมพ์บอกใครต่อใครบนโลก internet ได้แล้วว่า I use Arch btw (แต่เขาอยากรู้ไหม อีกเรื่อง! 😅)